คุณสมบัติทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์
ชื่อผลิตภัณฑ์ |
กำลังไฟฟ้า |
แรงดันไฟฟ้า |
ความถี่ไฟฟ้า |
ความจุน้ำสูงสุดของถังน้ำ |
เครื่องชงกาแฟ |
800W |
220-240V |
50-60Hz |
240ML |
แผนภาพชิ้นส่วนและการติดตั้ง

1. ฝาครอบถังน้ำ |
2. ตะแกรงเหล็ก |
3. ปุ่มหมุน |
4. กรวยโลหะ |
5. คันกด |
6. ไฟแสดงสถานะ |
7. ด้ามจับกรวย |
8. ท่อไอน้ำ |
9. ฝาหม้อน้ำ |
10. อุปกรณ์ตีฟองนม |
11. ด้ามจับ |
12. โถแก้วสำหรับชงกาแฟ |
13. ตัวเครื่องชงกาแฟ |
14. ที่รองแก้ว |
15. ถาดรองน้ำหยด |
16. ช้อนตวง |
17. ตำแหน่งชงกาแฟ |
18. ตำแหน่งอุ่นเครื่อง |
19. ปิดเครื่อง |
20. ตำแหน่งสำหรับตีฟองนมด้วยไอน้ำ |
21. ตำแหน่งใส่เข้า |
22. ตำแหน่งหมุนล็อก |
|
|
คำแนะนำด้านความปลอดภัย

สัญลักษณ์พื้นผิวร้อน
เครื่องหมายนี้แสดงว่าบริเวณด้านบนของตัวเครื่องอาจร้อนระหว่างการใช้งานและการสัมผัสโดยตรงอาจทำให้ถูกลวกได้
กรุณาหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณนี้ในระหว่างการใช้งานและหลังจากใช้งานเสร็จได้ไม่นาน
คำแนะนำการใช้งาน
A. การใช้งานครั้งแรก
1.นำเครื่องชงกาแฟออกจากบรรจุภัณฑ์แล้วตรวจสอบอุปกรณ์และชิ้นส่วนตามรายการให้ครบถ้วน
2.ทำความสะอาดชิ้นส่วนที่ถอดออกได้ทั้งหมด ดูหัวข้อ“การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา”แล้วจึงประกอบกลับเข้าที่
3.ประกอบตะแกรงเหล็กและกรวยโลหะเข้าด้วยกันแล้วติดตั้งกับตัวเครื่องให้แน่นหนา พร้อมวางกาแก้วบนที่รองแก้ว
4.ปฏิบัติตามขั้นตอนในหัวข้อ “B” และ “C” โดยไม่ต้องใส่ผงกาแฟ ทำซ้ำ 2–3 ครั้ง เพื่อทดสอบการทำงานของเครื่องให้แน่ใจว่าใช้งานได้ปกติ
B. การชงกาแฟเอสเปรสโซ่
1.หมุนฝาถังน้ำทวนเข็มนาฬิกาออก ใช้โถแก้วสำหรับชงกาแฟที่มาพร้อมเครื่องเติมน้ำลงในถังอย่าเกินขีดสูงสุด
หมายเหตุ:
① กาแก้วมีสเกล“ถ้วย”บอกระดับปริมาณน้ำ ความจุสูงสุด 4 ถ้วย (240 มล.) และความจุต่ำสุด 2 ถ้วย (120 มล.)
② ก่อนเติมน้ำ: ต้องถอดปลั๊กออกและหมุนปุ่มไปที่ตำแหน่ง“OFF”
2.ปิดฝาถังน้ำโดยหมุนตามเข็มนาฬิกาให้แน่นสนิท
3.ใส่ตะแกรงเหล็กลงในกรวยโลหะ ใช้ช้อนตวงใส่ผงกาแฟแล้วใช้แทมเปอร์กดผงให้แน่น
หมายเหตุ:
①กาแฟ 1 ช้อน = 1 ถ้วย
②มีสัญลักษณ์ 2 ถ้วย / 4 ถ้วย ให้เลือกใช้ปริมาณตามต้องการ
4.จัดแนวกรวยโลหะให้ปุ่มนูนตรงกับร่องล็อกในเครื่อง จากนั้นเสียบเข้าในตำแหน่ง “INSERT” แล้วหมุน ทวนเข็มนาฬิกา ไปยังตำแหน่ง “LOCK” จนแน่น (ดูภาพประกอบที่ 1)

5.วางโถแก้วสำหรับชงกาแฟบนที่รองแก้ว
หมายเหตุ:หากอุณหภูมิโดยรอบต่ำให้ล้างกาแก้วด้วยน้ำอุ่น 1–3 นาที เพื่อป้องกันการแตกร้าว
6.เสียบปลั๊กไฟหมุนปุ่มไปที่ตำแหน่ง “COFFEE” ไฟแสดงสถานะจะติด รอประมาณ 90 วินาที กาแฟจะเริ่มไหลออกมา。
หมายเหตุ: หากหมุนปุ่มไปที่ “PREHEAT” เพื่ออุ่นน้ำไว้ล่วงหน้า จะช่วยลดเวลาในการชงกาแฟ (ใช้เวลาประมาณ 60 วินาทีในการอุ่นเครื่อง);
7.เมื่อกาแฟเสร็จแล้วหมุนปุ่มกลับไปที่ “OFF” ไฟแสดงสถานะจะดับและเครื่องจะหยุดทำงาน จากนั้นจึงยกกาแก้วออกมาเพื่อดื่มกาแฟ
คำเตือน:ห้ามปล่อยให้เครื่องทำงานโดยไม่มีผู้ดูแล! อาจต้องควบคุมด้วยตนเองระหว่างการชง!
8.หมุนกรวยโลหะออกตามเข็มนาฬิกาใช้คันโยกกดตะแกรงเหล็กเพื่อเทกากกาแฟทิ้ง หลังจากเครื่องเย็นลงแล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด
คำเตือน:ก่อนถอดกรวยโลหะหรือเปิดฝาถังน้ำต้องปล่อยแรงดันไอน้ำออกก่อน โดยหมุนปุ่มไปที่ “OFF” ไอน้ำจะถูกระบายออกจากอุปกรณ์ตีฟอง เมื่อไม่มีแรงดันแล้วรอให้เย็นจึงถอดออกได้
C. การตีฟองนม/ทำคาปูชิโน่
เมื่อเติมฟองนมลงในเอสเปรสโซ่ก็จะได้เป็น“คาปูชิโน่”
ขั้นตอน:
1.เตรียมภาชนะขนาดเหมาะสม (เช่น เหยือกสแตนเลส) และชงเอสเปรสโซ่ตามขั้นตอน “B”
2.เทนมในปริมาณที่พอเหมาะลงในเหยือก (ควรใช้นมสดเต็มมันเย็นจากตู้เย็น ไม่ใช้นมร้อน)
หมายเหตุ:①เหยือกควรมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 70 ± 5 มม.และมีความสูงเพียงพอรองรับปริมาตรนมที่พองตัว แนะนำ “Simplus เหยือกตีฟองนม” ขนาด 600 มล. แข็งแรง ล้างง่าย
②ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีน้ำในถังเพียงพอ ระดับน้ำขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับการตีฟองนมคือ 60 มล. (ขีดล่างสุดของกาแก้ว)
3.หมุนปุ่มไปที่“STEAM” ไฟแสดงสถานะจะติด เมื่อเริ่มมีไอน้ำออกมาให้นำท่อฟองนมจุ่มลงในนมแล้วตีฟองจนได้ที่
4.เมื่อตีฟองเสร็จหมุนปุ่มกลับไปที่ “OFF” เพื่อหยุดไอน้ำและปล่อยไอน้ำตกค้างออก หมายเหตุ: ควรใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดท่อไอน้ำทันที หลังใช้งาน (ระวังลวกมือ!)
5.เทฟองนมที่ตีเสร็จลงในเอสเปรสโซ่ที่เตรียมไว้ก็จะได้คาปูชิโน่พร้อมเติมน้ำตาลหรือผงโกโก้ตามชอบ หมายเหตุ: หากต้องการชงกาแฟเพิ่ม ควรรอให้เครื่องเย็นลงก่อนไม่เช่นนั้นกาแฟอาจมีรสไหม้
การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา
1.ก่อนทำความสะอาด ต้องถอดปลั๊กไฟและรอให้เครื่องเย็นสนิท
2.ใช้ฟองน้ำกันความชื้นเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอก
หมายเหตุ:ห้ามใช้แอลกอฮอล์หรือสารทำความสะอาดประเภทตัวทำละลายและห้ามแช่ตัวเครื่องลงในน้ำเด็ดขาด
3.หมุนกรวยโลหะออกตามเข็มนาฬิก ล้างคราบกาแฟด้านในด้วยผงหรือน้ำยาทำความสะอาดแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
4.ล้างทุกชิ้นส่วนที่ถอดออกได้ด้วยน้ำสะอาดแล้วปล่อยให้แห้งสนิทก่อนนำกลับมาใช้งาน
การขจัดคราบตะกรัน (ล้างตะกรัน)
เพื่อให้เครื่องทำงานได้ดีรักษาความสะอาดของท่อภายในและคงรสชาติกาแฟที่ดีที่สุด ควรล้างตะกรันทุก 2–3 เดือน
1.ผสมน้ำกับน้ำยาล้างตะกรัน (อัตราส่วน 4:1) ตามคำแนะนำในฉลากผลิตภัณฑ์แล้วเติมลงในถังน้ำถึงขีดสูงสุด (MAX) ควรใช้น้ำยาล้างตะกรันสำหรับใช้ในครัวเรือนเท่านั้น
2.ปล่อยให้น้ำยาล้างตะกรันแช่อยู่ในถังน้ำนานอย่างน้อย 15 นาที
3.ประกอบกรวยโลหะและกาแก้วเข้ากับเครื่องโดยไม่ต้องใส่ผงกาแฟ
4.หมุนปุ่มไปที่ตำแหน่ง “COFFEE” ไฟแสดงสถานะจะติด ปล่อยให้น้ำยาล้างตะกรันไหลออกประมาณ 60 มล. (ปริมาณกาแฟ 1 ถ้วย) จากนั้นหมุนปุ่มกลับไปที่ “OFF” และรอ 5 วินาที
5.หมุนปุ่มไปที่ “STEAM” เพื่อปล่อยไอน้ำ เป็นเวลา 2 นาที แล้วจึงหมุนกลับไปที่ “OFF” เพื่อปิดเครื่อง
6.รีสตาร์ทเครื่อง แล้วทำตามขั้นตอนที่ 4 และ 5 อย่างน้อย 3 รอบ
7.หมุนปุ่มไปที่ “COFFEE” จนกว่าน้ำยาล้างตะกรันในถังจะหมด
8.เติมน้ำเปล่าลงในถังถึงขีด “MAX” แล้วทำซ้ำขั้นตอนที่ 4 และ 5 อย่างน้อย 5 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้างในท่อ แล้วให้ปล่อยน้ำจนหมดถัง เพื่อเป็นการล้างระบบทั้งหมด
ข้อควรระวังด้านความปลอดภัย
โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำทุกครั้งก่อนใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า:
1.ก่อนใช้งานโปรดตรวจสอบว่าแรงดันไฟฟ้าของปลั๊กตรงกับแรงดันไฟฟ้าที่ระบุบนฉลากของเครื่อง
2.เครื่องนี้ใช้ปลั๊กแบบมีสายดิน กรุณาใช้กับปลั๊กผนังที่มีการต่อสายดินอย่างถูกต้อง
3.เพื่อป้องกันไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจรหรืออันตรายต่อร่างกาย ห้ามจุ่มสายไฟหรือปลั๊กลงในน้ำหรือน้ำยาอื่น ๆ
4.ก่อนทำความสะอาดหรือเมื่อไม่ใช้งานควรถอดปลั๊กออกจากผนังเสมอ และปล่อยให้เครื่องเย็นก่อนถอดหรือทำความสะอาด
5.หากสายไฟหรือปลั๊กชำรุด ห้ามใช้งานเด็ดขาด หากเครื่องทำงานผิดปกติ หล่น หรือเสียหาย ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
6.การใช้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้รับรองจากผู้ผลิต อาจทำให้เกิดอันตรายจากไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจรหรือบาดเจ็บ
7.ควรวางเครื่องบนพื้นผิวเรียบ ห้ามปล่อยให้สายไฟห้อยลงจากขอบโต๊ะและอย่าให้สายไฟสัมผัสกับพื้นผิวร้อนของเครื่อง
8.ห้ามใช้เครื่องในบริเวณที่ร้อนจัด มีสนามแม่เหล็กแรง หรือชื้น ห้ามวางบนเตาไฟ/ตู้เย็น และอย่าวางสิ่งของใด ๆ บนตัวเครื่อง
9.เมื่อต้องการถอดปลั๊ก ควรจับที่หัวปลั๊ก ห้ามดึงสายไฟ
10.ห้ามใช้เครื่องในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์ และควรวางในบริเวณแห้ง
11.ขณะเครื่องทำงาน ต้องมีผู้ดูแล ห้ามปล่อยเครื่องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีผู้ควบคุม และ ห้ามให้เด็กหรือบุคคลอื่นใช้งานโดยไม่มีผู้ดูแล
12.ระวังไอน้ำร้อน อาจทำให้ลวกได้
13.ขณะเครื่องทำงาน บางส่วนของเครื่องจะร้อนมาก (เช่น แผงสแตนเลส ถาดรองน้ำหยด ฝาบน ท่อไอน้ำ และหัวตีฟองนม) ห้ามสัมผัสโดยตรง ให้ใช้เฉพาะด้ามจับหรือปุ่มหมุนเท่านั้น
14.ควรทำความสะอาดและบำรุงรักษาตามหัวข้อ “การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา” เพื่อรักษาคุณภาพกาแฟและยืดอายุการใช้งานเครื่อง และควรหยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นระยะในชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว
15.หากจะไม่ใช้เครื่องเป็นเวลานาน ควรถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้มาทำความสะอาดและผึ่งให้แห้งก่อนจัดเก็บ
16.ขณะชงกาแฟหรือปล่อยไอน้ำ ห้ามถอดชิ้นส่วนหรือปิดเครื่อง
17.หากเครื่องขัดข้อง ห้ามใช้งาน และ ห้ามใส่วัตถุแปลกปลอมลงในตัวเครื่อง
18.ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือใช้น้ำร้อนล้างส่วนประกอบที่ใช้ในการชงกาแฟเพราะอาจทำให้ขาดน้ำมันหล่อลื่นหรือเกิดการเสียรูปจากความร้อน
19.ห้ามเปิดเครื่องหากไม่มีน้ำอยู่ในถัง
20.ห้ามใช้เครื่องนี้ กลางแจ้ง
21.เครื่องนี้ ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย ประสาทสัมผัส สติปัญญา หรือขาดประสบการณ์ เว้นแต่มีผู้ดูแลแนะนำอย่างใกล้ชิด
22.ต้องดูแลไม่ให้เด็กเข้าใกล้หรือเล่นกับตัวเครื่อง
23.ห้ามนำ ตัวเครื่อง สายไฟ หรือปลั๊ก จุ่มลงในของเหลวใด ๆ
24.ห้ามเปิดฝาถังเติมน้ำขณะใช้งาน